สั่งเค้กวันเกิดให้แม่แฟน แต่กลายเป็นเจอเซอร์ไพรส์เสียเอง ร้านเค้กทำเจ็บ เขียนหน้าเค้ก แฮปปี้เบร์ธเดย์ เป็น ‘เลิกเดย์’ แถม นะค่ะ ให้อีก ผู้ใช้ TikTok @noeybt42 ได้โพสต์ภาพเค้กวันเกิดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 ซึ่งเธอเองตจั้งใจเอาไปเซอร์ไพรส์แม่ของแฟน แต่กลายเป็นว่า เธอเองต้องเจอเซอร์ไพรส์ยิ่งเกว่าา เพราะทางร้านกลับเขียนข้อความบนหน้าเค้กผิดอย่างที่ไม่รู้จะพูดยังไงดี
โพสต์ดังกล่าวระบุแคปชั่นว่า “ควรทำอย่างไรกับแม่ค้าดี #เค้กวันเกิดแม่ #หนึ่งปีมีครั้ง” โดยเจ้าของโพสต์ยังได้ลงภาพซึ่งเป็นหน้าเค้กพร้อมข้อความแชทที่เธอคุยกับทางร้านแห่งหนึ่ง
ซึ่งลูกค้าที่เะป็นคนสั่งเค้กวันเกิดให้แมแฟนนั้นก็สอบถามว่า ถ้าสั่งวันนี้จะได้รับตอนเย็นใช่หรือไม่ และทางร้านเองก็ตกปากรับคำอย่างดี มีการสอบถามจะเอาแบบไหน ซึ่งลูกค้าก็เลือกแบบที่เป็นเค้กฝอยทอง
เมื่อเสร็จสิ้นข้อตกลงเรื่องเค้ก เจ้าของโพสต์ใน TikTok ก็ตั้งใจเดินทางไปรับสินค้าเพื่อมาเซอร์ไพรส์แม่ของแฟน อย่างไรก็ตามหลังหอบเค้กก้อนโตกลับมาที่บ้าน เปิดกล่องออกดู ก็ต้องสะดุดตากับข้อความบนหน้าเค้ก “แฮปปี้เลิกเดย์คุณแม่นะค่ะ”
ทำเอาคนสั่งเค้กถึงกับไปไม่ถูก เพราะที่จริงมันต้องเป็น “แฮปปี้เบิร์ธเดย์คุณแม่นะคะ” แถมยังใช้คำว่า “นะคะ” ผิดอีก ไม่น่าเชื่อว่าทางร้านจะใช้ข้อความผิดขนาดนี้ถึงขั้นกลายเป็นคนละความหมาย เจอแบบนี้ทำเอาเธอเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก แต่บางคำตอบในโพสต์ก็ยังพอออุ่นใจได้บ้าง ตรงที่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ขำมาตลอดทางเลยเมื่อทราบเรื่อง แต่ขณะเดียวกันชาวเน็ตบางท่านก็เข้ามาแสดงความเห็นว่าทางร้านควรรับผิดชอบด้วยการคืนเงินให้กับลูกค้า
อัศวิน เผยว่าขณะนี้กำลังเตรียมพร้อมแผนฉีด วัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 ให้กับกลุ่มเป้าหมายใน กทม. ป้องกันโอมิครอนและเพิ่มภูมิ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่าทางกรุงเทพมีมาตรการเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สี่ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้กับกลุ่มเป้าหมาย และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโอมิครอน
โดยกลุ่มเป้าหมายที่ทางกรุงเทพเตรียมฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สี่มีดังนี้
1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
2. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า
3.กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันซึ่งกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ กรุงเทพมหานครมีฐานข้อมูลการให้บริการและสถานที่ฉีดเดิมอยู่แล้ว ทั้งนี้หากจะเริ่มดำเนินการและมีประกาศแนวทางจากกรมควบคุมโรค กทม. สามารถจัดสรรวัคซีนไปยังหน่วยงานที่ให้บริการและวางแผนการฉีดวัคซีนได้ทันที
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะไม่สามารถป้องกันการติดโรคได้ 100% แต่จะสามารถลดอาการหนัก หรือลดการเสียชีวิตได้ ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกคนไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันตนเอง และผู้อื่น รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
อุบล ช็อก! พบผู้ป่วยสงสัยติด โอมิครอน เป็นชายออสเตรเลีย
เพจเฟซบุ๊กเผย พบผู้ต้องสงสัยติดโควิด โอมิครอน รายแรกใน อุบล พบเป็นชายออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศด้วยระบบ Test&Go เพจเฟซบุ๊ก วารินชำราบบ้านเฮา ได้เผยแพร่เอกสารรายงานของเขตตรวจสุขภาพที่ 10 จ.อุบลราชธานี โดยระบุว่า ผู้ต้องสงสัยว่าป่วยเป็นโควิดโอมิครอนรายแรกในจังหวัด โดยเป็นนักชายชาวออสเตรเลีย อายุ 49 ปี เดินทางมาจากประเทศของตนเองเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test&Go เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. โดยไม่ต้องกักตัวและได้รับการตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบิน ไม่พบมีการติดเชื้อโควิด 19
ซึ่งจากการตรวจสอบไทม์ไลน์พบว่า หลังเดินทางถึงประเทศไทย ได้พักอยู่กรุงเทพฯช่วงหนึ่ง ก่อนเดินทางด้วยสายการบินภายในประเทศมาลงที่ จ.อุบลราชธานี และต่อรถไปหาแฟนสาวที่ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ โดยพักอยู่กับแฟนสาว มีการพบปะเพื่อนฝูงทั้งที่บ้านแฟนสาวและที่ จ.อุบลราชธานี 10 คน ต่อมามีอาการไม่สบาย วันที่ 21 ธ.ค.
จึงมาขอรับการตรวจเชื้อด้วยระบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเอกชนใน อ.เมืองอุบลราชธานี ผลติดเชื้อโควิด 19 จึงถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาในห้องความดันลบโรงพยาบาล 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ และโรงพยาบาลได้ส่งตัวอย่างเชื้อไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ของจังหวัดอุบลราชธานี และกรุงเทพฯ วันที่ 23 ธ.ค. ยืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน จึงให้ผู้ใกล้ชิด 10 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ผลเป็นลบ แต่ได้สั่งกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดไว้ก่อน
ส่วนผู้โดยสาร 23 คน ที่เดินทางด้วยเครื่องบินมาพร้อมกับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ประสานแจ้งให้ผู้โดยสารทั้งหมดที่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำสังเกตอาการและเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทุกคน ทำให้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่จากชายชาวออสเตรเลียที่ติดเชื้อโอมิครอนรายนี้ ซึ่งความคืบหน้าทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.ส่วนกลางจะเป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการต่อไป
โดยขอให้ทุกคนติดตามข่าวสารทางราชการเป็นสำคัญและอย่าได้ตื่นตระหนก ขณะนี้จังหวัดยังไม่มีการยกระดับมาตรการใดๆ เพราะต้องการให้สอดคล้องกับนโยบายของทางรัฐบาล และยังไม่มีการสั่งยกเลิกกิจกรรมใดๆ ในจังหวัดในขณะนี้