โฆษกสำนักนายกเผย ข้อความไว้อาลัยควีนเอลิซาเบธ ที่ลงนามโดย ประวิตร ขอร่วม ระลึกถึง และสวดภาวนากับรัฐบาลสหราชอาณาจักร นาย อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีข้อความสารถึงนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ลิซ ทรัสส์ นายกหญิงอังกฤษเพื่อไว้อาลัยต่อการสวรรคต ควีนเอลิซาเบธที่ 2 โดยสรุปสาระสำคัญจากข้อความสาร ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
แห่งสหราชอาณาจักร ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และประชาชนชาวไทย ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในช่วงเวลาที่เศร้าโศกนี้
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงอุทิศพระวรกายและทรงเอาพระทัยใส่ประชาชนสหราชอาณาจักรและประชาคมทั่วโลกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์เป็นที่สรรเสริญและชื่นชมไปทั่วโลก และจะเป็นที่จดจําตลอดไป การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2515 และ พ.ศ. 2539 จะเก็บเป็นความทรงจำในใจของคนไทย และในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้ ชาวไทยขอร่วม ระลึกถึง และสวดภาวนากับรัฐบาลสหราชอาณาจักร และประชาชนสหราชอาณาจักร
ประวิตร เตรียมเดินทางไปยังสถานทูตเพื่อลงนามไว้อาลัย ควีนเอลิซาเบธ พร้อมสั่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นระยะเวลา 3 วัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน ในวันที่ 9-11 กันยายน 2565 เพื่อไว้อาลัยควีนเอลิซาเบธที่ 2 และขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อเดินทางไปลงนามในสมุดแสดงความเสียใจ ณ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 ราชินีอังกฤษ สวรรคต พระชนมพรรษา 96 พรรษา
นายวิษณุ ระบุว่า รัฐบาลไทยตามประเพณีทางการทูต จะต้องดำเนินการลดธงครึ่งเสา 3 วัน ส่วนใครจะเป็นผู้แทนพระราชวงศ์เดินทางไปร่วมงานนั้น ตนไม่ทราบกำหนดการ อย่างไรก็ตาม ทางสถานทูตอังกฤษจะประกาศเปิดให้เข้าร่วมลงนามไว้อาลัย
ขณะที่นาย โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมาแถลงถึงสถานการณ์ว่า พวกเขาเป็นประเทศที่ทำลายแผนของศัตรูในหนึ่งสัปดาห์ และพวกเขาหยุดการบุกรุกของกองทัพรัสเซียไว้ได้ พร้อมเปิดเผยอีกว่า กองทัพยูเครนได้ควบคุมตัวทหารจากกองทัพรัสเซีย
ซึ่งผู้นำยูเครนบรรยายว่า ทหารรัสเซียเป็นเพียงแค่เด็กหลงทางที่ถูกใช้โดยผู้นำในกรุงมอสโก
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีทหารเสียชีวิตจากการบุกรุกยูเครน จำนวน 498 นาย ทั้งนี้จำนวนดังกล่าวถือว่าขัดแย้งกับจำนวนที่ทางการยูเครนได้ระบุเอาไว้ โดยทางยูเครนระบุว่ามีทหารรัสเซียชีวิตกว่า 5 พันนาย
รัฐบาล แนะผู้ปกครองพาเด็ก 6 เดือน – 5 ปี ฉีดวัคซีนโควิด
รัฐบาลแนะนำประชาชนพาบุตรหลานอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี ฉีดวัคซีนโควิด ลดอาการป่วยหนักของเด็ก เนื่องจากปกป้องตัวเองไม่ได้
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 ได้อนุมัติให้กรมควบคุมโรคดำเนินการปรับเปลี่ยนสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งตามสัญญาเดิมผู้ผลิตต้องจัดส่งวัคซีนรวม 30 ล้านโดส โดยขณะนี้เหลือการจัดส่งอีก 3.6 ล้านโดส ให้ปรับเปลี่ยนจำนวน 3 ล้านโดสเป็นวัคซีนโควิดสำหรับเด็ก 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปี (ฝาจุกสีม่วงแดง) นั้น วานนี้ (8 ก.ย. 65) กรมควบคุมโรคได้ลงนามการเปลี่ยนแปลงในสัญญากับบริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้แจ้งแผนการรับมอบวัคซีนว่าจะได้รับวัคซีนล็อตแรก 1 ล้านโดสในเดือนต.ค. จากนั้นจะทยอยกระจายวัคซีนไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยการให้วัคซีนจะดำเนินการผ่านโรงพยาบาลซึ่งโดยปกติพ่อแม่ผู้ปกครองจะนำเด็กช่วงอายุ 6 เดือน-น้อยกว่า 5 ปี ไปรับวัคซีนพื้นฐานอยู่แล้ว จึงให้เป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ด้วย และการให้วัคซีนจะเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง โดยโรงพยาบาลจะสอบถามความสมัครใจและให้ข้อมูลที่เพียงพอแก่ผู้ปกครองต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขอให้ผู้พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในช่วงอายุ 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปี ติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข และเตรียมนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีนในโรงพยาบาลได้ในช่วงเดือน ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งวัคซีนจะสามารถป้องกันบุตรหลานซึ่งอยู่ในวัยที่ยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเองได้จากโรคโควิด 19 ได้ถึงร้อยละ 80.3 ซึ่งนอกจากจะลดโอกาสของการเจ็บป่วยในเด็กแล้วยังเป็นการลดโอกาสการแพร่เชื้อจากเด็กไปยังผู้สูงอายุในครอบครัว
สำหรับปริมาณวัคซีนโควิดที่จะให้เด็กกลุ่มดังกล่าวนี้จะให้เข็มละ 0.2 มิลลิลิตร หรือ 3 ไมโครกรัม รวมทั้งสิ้น 3 เข็มต่อคน ซึ่งหลังจากฉีดเข็มที่ 1 แล้วจะเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ แล้วฉีดเข็มที่ 2 จากนั้นเว้นระยะอีก 8 สัปดาห์ จึงจะฉีดเข็มที่ 3
65% เห็นด้วยว่า “แม้เราจะต่างกัน แต่ชาวรัสเซียในยูเครนและชาวยูเครนมีสิ่งที่ทำให้ปรองดองกันมากกว่าแตกแยกกัน” 93% มองอนาคตของยูเครนในเงายุโรปมากกว่ารัสเซีย รวมถึง 78% ของผู้ที่มีเชื้อสายรัสเซีย และ 84% ของผู้ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศที่ใกล้กับชายแดนรัสเซียที่สุด
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป