กลับมาดูกันอีกครั้งในส่วนของนโยบาย ลดราคาเกมส์ แบบใหม่ของ Steam ที่จะมีการปรับใช้งานภายในวันที่ 28 มี.ค. 2565 โดยจะย่นเวลาวงจรลงให้เหลือแค่ 28 วัน (21 ก.พ. 2565) กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหนึ่งกับนโยบาย ลดราคาเกมส์ แบบของแพลตฟอร์มร้านค้าชื่อดัง Steam หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยกันเมื่อวันที่ 2 ของเดือนนี้ โดยที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดก็คงเป็นในส่วนของการย่นระยะเวลาของวงจรในการลดราคาเกมส์ที่จะเหลือเพียงแค่ 28 วัน จากเดิมที่เป็น 6 สัปดาห์ (42 วัน)
ในส่วนของรายละเอียดนั้นก็มีด้วยกันดังนี้
1. ผู้พัฒนา – บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมส์สามารถทำการลดราคาเกมส์ได้อีกครั้งภายในระยะเวลา 28 วัน (นับตั้งแต่วันที่ส่วนลดเก่าสิ้นสุด ไปถึงวันที่เริ่มลดใหม่อีกครั้ง)
ยกเว้นเทศกาลลดราคาใหญ่ในแต่ละปี (Lunar New Year Sale, Summer Sale, Autumn Sale, และ Winter sale)
2. ไม่สามารถทำการลดราคาเกมส์ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาตามค่าเงินได้เป็นระยะเวลา 28 วัน
3. ส่วนลดสำหรับเทศกาลลดราคาใหญ่ ไม่สามารถปรับใช้ได้ หากเกมส์เพิ่งปล่อยตัว, ส่วนลดปล่อยตัว หรือการเพิ่มราคาตามค่าเงิน ภายในระยะเวลา 28 วัน
4. ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงราคา (เพิ่ม/ลด) ในระหว่างที่มีการลดราคาเกมส์อยู่ หรือในช่วงมีการวางแผนเอาไว้แล้ว (ตั้งเป้าว่าจะลดราคาภายในวันที่ 28 ก.พ. ระหว่างนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงราคาของเกมส์ได้)
5. ไม่สามารถทำการลดราคาเกมส์ให้สูงเกิน 90% หรือต่ำกว่า 10% ได้
6. การลดราคาแบบปรับแต่ง (ที่อยู่นอกเหนือจากเทศกาล หรืองานลดราคาอื่น ๆ) จะต้องดำเนินการไม่เกิน 2 สัปดาห์ หรือต่ำกว่า 1 วัน
นโยบายนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 28 มีนาคม 2565 ซึ่งในขณะนี้ทาง Steam ได้มีการปล่อยเครื่องมือในการดำเนินการลดราคาแบบ Beta ให้ได้ใช้งานกัน เพื่อช่วยเหลือให้แก่ผู้พัฒนา – บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมส์ในการดำเนินการลดราคาบนแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างราบรื่น
ชุดการ์ดนี้จะวางจำหน่ายในรูปแบบ Draft Boosters, Theme Boosters, Collector Boosters, Set Boosters, Bundle และ Commander Decks 2 แบบ
ในส่วนของความเห็นของผมแล้วนั้น – ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เล่นเกมส์การ์ด MTG แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าชุดการ์ดเซ็ตนี้ความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง การผสมผสานศิลปะแนว Futuristic Punk และความเป็นญี่ปุ่นในธีมนี้ ถือว่าเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เล่นเด็ดสายนี้ก็ตาม ตัวการ์ดในชุดนี้ก็ถือว่าน่าดึงดูดเพียงพอให้ซื้อไปเก็บสะสมกันได้เลยนะครับผม
ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็น “Hometown of Metaverse” ด้วยปัจจัย 3 ประการ ได้แก่
1. Macro Economy – นโยบายจากประเทศจีน อาทิ การจำกัดเวลาในการเล่นเกมในเด็ก หรือ การเข้มงวดในการตรวจสอบ Tech Company และข้อจำกัดของสหรัฐอเมริกาที่เพ่งเล็งธุรกิจจากจีนและยังมีความไม่ชัดเจนในการสนับสนุนธุรกิจที่มาจากจีน หากประเทศไทยวางตำแหน่งด้านเทคโนโลยีของตัวเองได้เหมาะสมจะทำให้เปลี่ยนภูมิทัศน์ (Landscape) ของประเทศไทยไปเป็นคลัสเตอร์ของดาต้าเซ็นเตอร์ ก็จะช่วยดึงดูดผู้ให้บริการ Metaverse ได้เพิ่มเติม
2. ศักยภาพตลาด E-Commerce – คนไทยเป็นผู้บริโภคชั้นดีของอุตสาหกรรม E-Commerce คนกรุงเทพฯ ใช้เวลาในเฟซบุ๊กเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนให้เห็นความเป็น Technology Early Adopter แทบทุกอย่างและใช้เวลาบนโลกออนไลน์อย่างน่าสนใจ
3. ประเทศไทยเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ เสมอ และมีศักยภาพเพียงพอ – ด้วยภูมิประเทศที่เป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจอาเซียน นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ Thailand 4.0 และการเปิดรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ของภาคเอกชนมาเสริมศักยภาพเป็นปัจจัยที่จะทำให้ผู้ให้บริการเหลียวมองประเทศไทยเป็น Hometown of Metaverse” ได้
ด้านจอแสดงผล โซลูชัน Under-Screen Camera รุ่นใหม่ของออปโป้ มอบนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านการออกแบบโครงสร้างและอัลกอริทึม AI ดังนี้
Pixel geometry อันล้ำสมัย: โซลูชันใหม่นี้ จะย่อขนาดแต่ละพิกเซลโดยไม่ลดจำนวนพิกเซลลง เพื่อคงคุณภาพของจอแสดงผลให้มีคุณภาพสูงแม้พื้นที่เหนือกล้อง ที่ความละเอียด 400-PPI
Transparent wiring และดีไซน์แบบใหม่: OPPO เปลี่ยน screen wiring แบบดั้งเดิมมาเป็นวัสดุแบบ transparent wiring ที่ล้ำสมัย โดยเมื่อรวมกับกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูงที่ช่วยลดความกว้างของ screen wiring ได้ถึง 50% แล้ว ยังทำให้คุณภาพการแสดงผลมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การมองเห็นที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป